สุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ความท้าทาย
แนวทางการปฏิบัติงาน
บริษัทกำหนดนโยบาย และระบบการจัดการสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานที่ปลอดภัยครอบคลุมทุกกิจกรรม ทุกสถานที่ปฏิบัติงาน และพนักงานและผู้รับเหมาทุกคนทั่วทั้งบริษัทและบริษัทในเครือ
จรรยาบรรณการดำเนินธุรกิจด้านสภาพแวดล้อม ความปลอดภัย และสุขอนามัยในการทำงาน

ดูเนื้อหาเพิ่มเติม:
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน และการส่งเสริมและป้องกันความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของผู้รับเหมาและคู่ค้าได้ที่
นโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
อ่านเพิ่มเติมจรรยาบรรณคู่ค้า
อ่านเพิ่มเติมการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว

บริษัทมีหน่วยงานความปลอดภัยเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัยที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล และได้กำหนดให้หน่วยงานความปลอดภัยของแต่ละโรงไฟฟ้ามีการตั้งเป้าหมายเชิงปริมาณ ซึ่งจะมีผลต่อการประเมินผลการดำเนินงานของพนักงานในหน่วยงานความปลอดภัยอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาความปลอดภัยอาชีวอนามัยของบริษัทอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ เป้าหมายเชิงปริมาณดังกล่าวยังเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการกำหนดมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย อาทิ การรับรองมาตรฐานการดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยของพนักงาน และการบันทึกสถิติข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในที่ทำงาน
บริษัทมีระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบริษัท (Occupational Health and Safety Management System) ที่ถูกกำหนดขึ้นให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของโรงไฟฟ้าทั้งในไทยและของ สปป.ลาว ที่โรงไฟฟ้าของบริษัทตั้งอยู่ อาทิ กฎหมายแรงงาน กฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานฯ กฎหมายการจัดการสารเคมี กฎหมายในการควบคุมและป้องกันเหตุเพลิงไหม้ กฎหมายควบคุมยาเสพติด กฎหมายด้านสุขอนามัย การป้องกันโรค และการส่งเสริมสุขภาพ กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัยในสถานที่ก่อสร้าง กฎหมายควบคุมการจราจร ข้อตกลงว่าด้วยการจัดการสารเคมี กฎหมายมาตรฐานเสียงในอุตสาหกรรม พระราชกฤษฎีกาสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงาน กฎหมายการควบคุมการก่อสร้าง พระราชกฤษฎีกาการไฟฟ้า กฎหมายด้านการขนส่ง นโยบายการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ และพระราชกฤษฎีกาความปลอดภัยในการทำงาน เป็นต้น รวมทั้งบริษัทยังได้รับการรับรองมาตรฐานสากลของระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001: 2018
ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบริษัทครอบคลุมผู้ปฏิบัติงานทุกคนทั้งพนักงานและผู้รับเหมา โดยผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการทำงานในทุกกิจกรรม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในทุกพื้นที่ปฏิบัติงานของทุกโรงไฟฟ้า โดยในปี 2565 มีการดำเนินการที่ได้รับการตรวจสอบจากทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร คิดเป็น 100% โดยมีรายละเอียดดังตารางด้านล่าง
บริษัท | ขอบเขตของระบบการจัดการสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย | ผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายในองค์กร | ผ่านการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอกองค์กร | |
---|---|---|---|---|
CKP | พนักงาน | 129 คน | 129 คน | 129 คน |
ผู้รับเหมา | 280 คน | 280 คน | 280 คน | |
XPCL | พนักงาน | 186 คน | 186 คน | 186 คน |
ผู้รับเหมา | 199 คน | 199 คน | 199 คน | |
NN2 | พนักงาน | 49 คน | 49 คน | 49 คน |
ผู้รับเหมา | 360 คน | 360 คน | 360 คน | |
BIC | พนักงาน | 53 คน | 53 คน | 53 คน |
ผู้รับเหมา | 3,000 คน | 3,000 คน | 3,000 คน | |
BKC | พนักงาน | 1 คน | 1 คน | 1 คน |
ผู้รับเหมา | 65 คน | 65 คน | 65 คน | |
Total | พนักงาน | 418 คน | 418 คน | 418 คน |
ผู้รับเหมา | 3,904 คน | 3,904 คน | 3,904 คน |
หมายเหตุ: สถิติในปี 2565
บริษัทได้กำหนดให้หน่วยงานความปลอดภัยจำเป็นต้องปฏิบัติงานตามขั้นตอนการบ่งชี้อันตรายและประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยทุกครั้งก่อนเริ่มปฏิบัติงาน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้เทคนิคการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย (Job Safety Analysis : JSA)

พนักงานของหน่วยงานด้านความปลอดภัยจำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรมด้านอาชีวอนามัยอย่างสม่ำเสมอ และต้องนำผลที่ได้จากการบ่งชี้อันตรายและการประเมินความเสี่ยงมาแก้ไขปรับปรุง เพื่อให้การบ่งชี้อันตรายและการประเมินความเสี่ยงมีประสิทธิภาพ สอดคล้องตามมาตรฐาน และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
พนักงาน ผู้รับเหมา และชุมชนรอบโรงไฟฟ้าตามขอบเขตที่ดำเนินการได้ จะต้องได้รับการอบรมและเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงการเข้ารายงานตัวและการตระเตรียมตนเองเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ ฉุกเฉินต่าง ๆ รวมไปถึงการร่วมซ้อมแผนฉุกเฉินร่วมกับชุมชน โดยเฉพาะความเสี่ยงที่ได้รับการบ่งชี้อันตรายและประเมินความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (OHS Risk and Hazard Assessments) ซึ่งเป็นแนวทางในการลดความรุนแรงและความเสียหายของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นหลังการฝึกซ้อมเพื่อนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไป โดยการซ้อมรับมือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้แก่
แผนการซ้อมเหตุฉุกเฉิน | ความถี่ในการฝึกซ้อม |
---|---|
1. การหนีไฟ | 4 ครั้ง/ปี |
2. การเผชิญเหตุกรณีสารเคมีรั่วไหล | 1 ครั้ง/ปี |
3. เครื่องทำความเย็นขัดข้อง | 1 ครั้ง/ปี |
4. น้ำท่วม | 1 ครั้ง/ปี |
5. แผ่นดินไหว | 1 ครั้ง/ปี |
6. ดินถล่ม | 1 ครั้ง/ปี |
ช่องทางการแจ้งเหตุ
บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้รับเหมาแจ้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น สภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุผ่านช่องทางต่าง ๆ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุการตรวจสอบและการดำเนินการแก้ไขที่เหมาะสมตามการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของพนักงานและผู้รับเหมา ดังนี้
- เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ผ่านช่องทางโทรศัพท์ และอีเมล
- ผู้จัดการโรงไฟฟ้าผ่านช่องทางโทรศัพท์ และอีเมล
- แบบฟอร์มออนไลน์ WE CARE CONVERSATION
- แบบฟอร์มการร้องเรียนและข้อเสนอเเนะ
โดยหลังจากที่ได้รับการแจ้งเหตุ คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมและหาแนวทางพิจารณาแก้ไขร่วมกัน
ขั้นตอนการสอบสวนการบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยจากการทำงาน
บริษัทดำเนินการป้องกันและลดความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยการประเมินและจัดทำทะเบียนความเสี่ยงของกิจกรรมและการดำเนินงานทั้งหมด แล้วจึงคัดเลือกเฉพาะกิจกรรมที่มีความเสี่ยงระดับปานกลางขึ้นไปในทะเบียนมาประชุมเพื่อหาแนวทางควบคุม ซึ่งจะพิจารณาตามหลักการจัดการความเสี่ยงหรือมาตรการควบคุม และนำเสนอแผนควบคุมหรือลดความเสี่ยงต่อผู้บริหารเพื่อขออนุมัติในการจัดทำตามแผนควบคุมความเสี่ยงต่อไป
ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ หรือที่เกิดอุบัติเหตุ บริษัทได้กำหนดแนวทางในการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย การจัดทำรายงานเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุและรายงานอุบัติเหตุ (Near Miss and Incident Report) โดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยจะเป็นผู้จัดทำรายงานนี้และจัดส่งให้ผู้จัดการโรงไฟฟ้าเป็นผู้อนุมัติ โดยรายละเอียดจะมีการวิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการทำงานและระบุถึงแนวทางแก้ไข ภายหลังจากที่บริษัทได้รับการแจ้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุผ่านช่องทางต่าง ๆ บริษัทได้กำหนดขั้นตอนภายหลังการรับแจ้งเหตุ โดยสอบสวนการบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยจากการทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โดยในปี 2565 มีเหตุที่ได้รับแจ้งทั้งหมด 32 เหตุการณ์

ทั้งนี้ บริษัทจะนำผลจากการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแก้ไขและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างจริงจัง และกำหนดมาตรการเพื่อพัฒนาให้สถานที่ปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยในปี 2565 มีการแจ้งเหตุ จำนวน 32 เหตุการณ์ คิดเป็นเหตุการณ์ที่สามารถจัดการได้โดยแนวทางการจัดการที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน จำนวน 30 เหตุการณ์ และเป็นเหตุกาณ์ที่ต้องกำหนดมาตรการป้องกัน รวมถึงแนวทางการจัดการเพิ่มเติม จำนวน 2 เหตุการณ์ ยกตัวอย่างเช่น
เหตุการณ์ | มาตรการ/แนวทางการจัดการ |
---|---|
1. สารเคมีสัมผัสโดนตัวผู้รับเหมา | กำหนดให้มีการประเมินความเสี่ยงก่อนเริ่มงานทุกครั้ง และมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันสารเคมีให้กับผู้ปฏิบัติงานก่อนเริ่มงาน และผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับการยืนยันการขออนุญาตทำงานก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง |
2. แผ่นโลหะยึดตรึงสลักเกลียวบาดฝ่ามือพนักงานได้รับบาดเจ็บต้องทำการเย็บแผล |
1.) กำหนดให้มีการอบรมเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงานให้ปลอดภัยสำหรับงานขันสลักเกลียว 2.) กำหนดหัวข้ออุบัติเหตุจากการทำงานเกี่ยวกับของมีคมและวิธีการปฏิบัติงานให้ปลอดภัยในกิจกรรม Toolbox Meeting ประจำเดือน |
การเยียวยาพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน
พนักงานสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงานเพื่อเป็นการบรรเทาและเยียวยาพนักงานที่ประสบอุบัติเหตุ
การส่งเสริมสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
บริษัทได้จัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงานซึ่งประกอบด้วย ผู้จัดการโรงไฟฟ้าเป็นประธาน ตัวแทนจากหน่วยงานเดินเครื่อง หน่วยงานซ่อมบำรุง หน่วยงานบริหาร หน่วยงานทรัพยากร หน่วยงานสิ่งแวดล้อม และมีหน่วยงานด้านความปลอดภัยทำหน้าที่เป็นเลขานุการ มีหน้าที่หลักในการพัฒนาและปรับปรุงระบบการจัดการสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การจัดตั้งบริการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health Services ) ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดระหว่างการทำงานของพนักงาน สื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน พัฒนาและเสนอโครงการการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย และรับฟังข้อเสนอแนะจากพนักงานเพื่อพิจารณาและผลักดันข้อเสนอต่าง ๆ ต่อคณะกรรมการบริษัท ที่สำคัญพนักงานสามารถมีส่วนร่วมในการส่งเสริมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบริษัทผ่านตัวแทนจากพนักงานที่ร่วมการประชุมของคณะกรรมการฯ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน รวมถึงเป็นช่องทางให้พนักงานสามารถสื่อสารโดยตรงกับคณะกรรมการบริษัทในการประชุมคณะกรรมการประจำปี
โครงการ | รายละเอียด |
---|---|
โครงการ “WE CARE”
|
ตั้งแต่ปี 2564 บริษัทได้เริ่มจัดกิจกรรมเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย ภายใต้โครงการ “WE CARE” เพื่อเสริมสร้าง ค่านิยมและความตระหนักด้านความปลอดภัยขององค์กรที่มีอิทธิพลต่อความมุ่งมั่น ในการผลักดันนโยบายในการจัดการด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้เป็นรูปธรรม โดยสนับสนุนให้พนักงานทั่วทั้งองค์กรมีส่วนร่วมในการสื่อสารและส่งต่อวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยเชิงบวก และสื่อสารบนพื้นฐานของความเข้าใจ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานด้านความปลอดภัย และลดการเกิดอุบัติเหตุจากกการทำงาน และยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของพนักงานในการช่วยกันแนะนำและดูแลความปลอดภัยของเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงหลักปฏิบัติงานที่ปลอดภัย โดยการอบรมเรื่องวัฒนธรรมความปลอดภัย WE CARE เป็นการสนับสนุนให้พนักงานมีการสื่อสาร พูดคุยซึ่งกันและกันผ่านช่องทาง WE CARE Conversation Form เพื่อที่จะให้พนักงานในโรงไฟฟ้ามีความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำแบบฟอร์มนี้ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง และสามารถส่งข้อมูลการแนะนำ ติชม การแบ่งปันข้อมูลด้านความปลอดภัยกับเพื่อนร่วมงานได้ |
Stop Work Authority (SWA) | บริษัทให้อำนาจกับพนักงานทุกคนในทุกระดับมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือสามารถหยุดงานได้ทันที หากพนักงานพบเจอกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยและไม่ได้มาตรฐาน โดยพิจารณาแล้วว่ากิจกรรมในการปฏิบัติงานนั้นมีความเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุหรือสภาวะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต และทรัพย์สิน และสามารถรายงานสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยได้ผ่าน เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน หรือรายงานต่อผู้จัดการโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง โดยสภาพการทำงานนั้นจะต้องได้รับการแก้ไขให้อยู่ในระดับที่มีความปลอดภัยที่เพียงพอจึงอนุญาตให้พนักงานปฏิบัติงานต่อไปได้ |
เกณฑ์ด้านความปลอดภัยในการจัดซื้อจัดจ้าง | บริษัทได้ระบุให้เกณฑ์ด้านความปลอดภัย ในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยผู้รับเหมาที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ของบริษัทจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัทที่สอดคล้องตามมาตรฐาน ISO45001:2018 เช่น ผู้รับเหมาจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ตามมาตรฐานสากล เป็นต้น |
การตรวจสุขภาพพนักงาน | บริษัทได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับพนักงานทุกคนปีละ 1 ครั้ง และ 2 ครั้ง สำหรับพนักงานที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติงาน |
การป้องกันอันตรายส่วนบุคคล | บริษัทได้จัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) เป็นมาตรการการป้องกันความปลอดภัยหนึ่งที่มีความสำคัญในการป้องกันและบรรเทาอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยการจัดเตรียม PPE จะมีความสอดคล้องกับผลที่ได้จากการชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ซึ่งจะมีความเหมาะสมกับความเสี่ยงในแต่ละกิจกรรม และตำแหน่งงาน |
โครงการส่งเสริมสุขภาพ รณรงค์การออกกำลังกาย และสนับสนุนอุปกรณ์ออกกำลังกาย | บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพของพนักงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน และส่งผลต่อเป้าหมายการเป็น “องค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุและปราศจากการบาดเจ็บ” บริษัทจึงจัดให้มีโครงการส่งเสริมสุขภาพ รณรงค์การออกกำลังกาย และสนับสนุนอุปกรณ์ออกกำลังกาย |
การจัดให้มีเวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาล | บริษัทได้จัดให้มีเวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลอย่างเพียงพอ และห้องพยาบาล (Medical Center) โดยจัดให้มีแพทย์และพยาบาลอาชีวอนามัย ประจำการสามารถให้พนักงานรวมไปถึงผู้รับเหมาที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่สามารถเข้ารับบริการเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ และจำเป็นต้องรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมถึงจัดให้มีรถพยาบาลประจำในบางโรงไฟฟ้าที่อยู่ห่างไกลจากสถานพยาบาล เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 เป็นต้น ที่ได้มีการประสานงานไว้กับโรงพยาบาลท้องถิ่น |
โครงการ | รายละเอียด | ความเสี่ยง | ผู้รับการอบรม | |
---|---|---|---|---|
พนักงาน | ผู้รับเหมา | |||
กิจกรรม Safety Toolbox Meeting | บริษัทให้ความสำคัญต่อการระบุภัยคุกคามหรือประเด็นความเสี่ยงที่อันตรายในทุกขั้นตอนของการทำงาน ครอบคลุมทุกกิจกรรมในการปฏิบัติงานของพนักงานและผู้รับเหมา ตลอดจนพัฒนาและต่อยอดโครงการด้านความปลอดภัย โดยบริษัทดำเนินการผ่านกิจกรรมการส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือทั่วทั้งองค์กรภายใต้กิจกรรม Safety Toolbox Meeting เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านความปลอดภัยให้กับพนักงาน โดยรูปแบบจะการนำเสนอเนื้อหาความรู้ด้านความปลอดภัย เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และแนะนำวิธีปฏิบัติงานให้ปลอดภัยทุกกิจกรรมและขั้นตอนในการทำงานในโรงไฟฟ้า | ความเสี่ยงทั่วไป | ||
โครงการ Safety Week 2022 | ในปี 2565 บริษัทได้จัดโครงการ Safety Week 2022 เฉลิมฉลองความสำเร็จ 2,000,000 ชั่วโมงการทำงาน (มาตรฐาน ANSI) โดยไม่มีการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (LTI) นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้พนักงานมีความตระหนัก เสริมสร้างความรู้ ส่งเสริมทัศนคติที่ดีของพนักงานต่อระบบการทำงานภายใต้การควบคุมความปลอดภัย ผ่าน WE CARE Conversation และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยของบริษัท
|
ความเสี่ยงทั่วไป | - | |
การซ้อมแผนเผชิญเหตุกรณีสารเคมีรั่วไหล |
หลักสูตรการควบคุมการหกรั่วไหลของสารเคมีเป็นการฝึกอบรมสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือทำงานที่อาจสัมผัสกับสารเคมี วัตถุอันตราย โดยหลักสูตรนี้มุ่งเน้นไปที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ทีมฉุกเฉิน ทีมดับเพลิง และผู้ควบคุมสารเคมีที่ต้องการมีความเชี่ยวชาญในการจัดการเหตุฉุกเฉินดังกล่าว เพื่อให้สามารถควบคุมอุบัติเหตุได้ผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2565 ไม่มีบันทึกการรั่วไหลของสารอันตรายตามที่กฎหมายกำหนดรวมถึงสารไม่อันตรายภายในสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องอื่น ๆ |
ความเสี่ยงเฉพาะทาง | - | |
การอบรมการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น | บริษัทให้ความสำคัญถึงการทำงานที่เกี่ยวข้องกับปั่นจั่น จึงจัดอบรมให้แก่พนักงานซึ่งเป็นผู้บังคับปั่นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น เพื่อให้พนักงานที่ปฏิบัติงานดังกล่าวมีความรู้ความเข้าใจถึงความปลอดภัยในการใช้งานปั้นจั่นเพิ่มศักยภาพในการทำงาน และลดการเกิดอุบัติเหตุรวมถึงความความสูญเสียรวมทั้งวางแผนป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานเกี่ยวกับปั่นจั่นที่อาจจะเกิดขึ้นได้ | ความเสี่ยงเฉพาะทาง | - | |
การฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการจริงภาคสนามกรณีท่อก๊าซรั่วไหลติดไปในพื้นที่ที่กำหนด | บริษัทกำหนดให้พนักงานฝึกซ้อมแผนปฏิบัติการจริงภาคสนาม ในกรณีท่อก๊าซรั่วไหลติดไปในพื้นที่ที่กำหนด อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้พนักงานที่เป็นทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินได้เตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนองกรณีท่อก๊าซรั่วไหลติดไปในพื้นที่ที่กำหนด โดยมีการบันทึกผลการฝึกซ้อมลงในรายงานผลการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินและการประเมินผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในครั้งถัดไป | ความเสี่ยงเฉพาะทาง | - | |
การอบรมเทคนิคการผจญเพลิง | บริษัทได้กำหนดให้พนักงานที่อยู่ในทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ได้เข้าอบรมเทคนิคการผจญเพลิง เพื่อให้พนักงานที่เข้ารับการอบรมมีความชำนาญด้านทักษะ เทคนิคการควบคุมระงับเหตุ และการใช้อุปกรณ์ควบคุมเพลิงไหม้ เพื่อให้พนักงานได้ทบทวนทักษะการผจญเพลิงและสามารถเข้าระงับเหตุ และควบคุมสถานการณ์ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ในโรงไฟฟ้าได้ทันที | ความเสี่ยงเฉพาะทาง | - | |
ระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001: 2018 | บริษัทกำหนดให้พนักงานทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานกับระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001: 2018 ทราบถึงข้อกำหนด ที่มีการปรับเปลี่ยน และสิ่งที่มีผลกระทบต่อระบบการบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในปัจจุบัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดทำระบบ ISO 45001: 2018 | ความเสี่ยงทั่วไป | - | |
การอบรมการควบคุมประจำหม้อน้ำ | บริษัทได้กำหนดให้พนักงาน ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานควบคุมหม้อน้ำประจำโรงไฟฟ้า เข้าอบรมหลักสูตรผู้ควบคุมประจำหม้อน้ำ เพื่อมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้าง อุปกรณ์ และส่วนควบคุมต่าง ๆ ของหม้อน้ำหรือหม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับหม้อน้ำ และมีความตระหนักในบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมหม้อน้ำตามที่กฎหมายกำหนดไว้ | ความเสี่ยงเฉพาะทาง | - | |
การอบรมการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านความปลอดภัย | บริษัทได้ให้พนักงานอบรมการการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านความปลอดภัย เพื่อจัดทำการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านความปลอดภัยและจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานในส่วนงานของตนเองทุกงานที่มีความเสี่ยงอันตรายพร้อมนำส่งที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดตามระบบมาตรฐานการจัดการอาขีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 45001: 2018 | ความเสี่ยงทั่วไป | ||
การอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคืนชีพ (First Aid & CPR) | พนักงานทุกคนจะได้รับการอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคือชีพจากแพทย์ประจำโรงไฟฟ้า เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความรู้ ทักษะและประสบการณ์และมีความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลและการช่วยฟื้นคืนชีพ สามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยให้พ้นจากอันตรายได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพก่อนนำส่งโรงพยาบาล เพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น | ความเสี่ยงทั่วไป | - | |
การอบรมการตรวจประเมินภายในสำหรับ 3 ระบบ (9001: 2015, 14001: 2015, 45001: 2018) | บริษัทได้แต่งตั้งคณะทำงานการตรวจประเมินภายในสำหรับระบบมาตรฐานทั้ง 3 ระบบ ISO 9001: 2015, 14001:2015 และ 45001:2018 โดยคณะทำงานตรวจประเมินภายในจะได้รับการอบรมหลักสูตรสำหรับการตรวจประเมินภายใน 3 ระบบเพื่อให้มีความรู้และทราบถึงหลักการตรวจประเมินภายใน และจัดทำโปรแกรมตรวจประเมินในทุกโรงไฟฟ้า ติดตามและแก้ไข ตามข้อกำหนดระบบมาตรฐานทั้ง 3 ระบบ | ความเสี่ยงทั่วไป | - | |
โครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย | บริษัทได้เล็งเห็นถึงความปลอดภัยในการเดินทางมาทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา ซึ่งบางส่วนมีการเดินทางโดยจักรยานยนต์ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุการสวมหมวกนิรภัยสามารถช่วยลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความสูญเสียได้อย่างมาก โดยหลังจากนั้นได้ทำการสำรวจข้อมูลการสวมใส่หมวกนิรภัยของพนักงานและผู้รับเหมา พบว่าพนักงานที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาทำงานไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 34.80 คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานจึงได้จัดตั้ง “โครงการรณรงค์สวมหมวกนิรภัย” ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยหวังว่าจะเป็นการกระตุ้นพฤติกรรมความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์และเพื่อช่วยลดความรุนแรงขณะเกิดอุบัติเหตุทางการจราจรได้ โดยมีกิจกรรมการอบรมให้ความรู้และตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่ และจัดทำป้ายเตือน ซึ่งผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายโดยมีให้พนักงานและผู้รับเหมาร้อยละ 100 สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ในเดือนที่ 4 หลังจากเริ่มโครงการในปี 2564 จนถึงปัจจุบัน | ความเสี่ยงทั่วไป |
พร้อมกันนี้ บริษัทและบริษัทในเครือยังมุ่งเสริมสร้างความตระหนักถึงวัฒนธรรมความปลอดภัยขององค์กรแก่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งภายในและภายนอกองค์กรซึ่งครอบคลุมถึงทุกกิจกรรมของพนักงาน ผู้รับเหมา และคู่ค้าที่สำคัญผ่านกิจกรรม โครงการ และการอบรมต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “องค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุและปราศจากการบาดเจ็บ” โดยบริษัทกำหนดมาตรการสำหรับพนักงานใหม่ต้องได้รับการตรวจสุขภาพก่อนการปฏิบัติงาน รวมทั้งมีการตรวจสุขภาพประจำปีให้กับพนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์ และพร้อมปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
บริษัทตระหนักและห่วงใยความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานอยู่เสมอ โดยมีการกำหนดมาตรการและนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดอย่างรอบด้าน ประกอบด้วยมาตรการการคัดกรองผู้ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่

ผลการดำเนินงาน
สถิติพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน
บริษัทไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมของพนักงาน แต่ยังรวมไปถึงผู้รับเหมา และคู่ค้าของบริษัท โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการเป็น “องค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุและปราศจากการบาดเจ็บ” ดำเนินการการเก็บข้อมูลและตั้งเป้าหมายสถิติอัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน (Loss Time Injury Frequency Rate: LTIFR) ให้เป็นศูนย์ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงานในองค์กร รวมทั้งเป็นดัชนีชี้วัดผลการปฏิบัติงานบริษัท บริษัทกำหนดเป้าหมายด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมที่ดังต่อไปนี้
ตัวชี้วัด | ผลการดำเนินงานปี 2565 | เป้าหมายปี 2566 | ||
---|---|---|---|---|
พนักงาน | ผู้รับเหมา | พนักงาน | ผู้รับเหมา | |
จำนวนผู้เสียชีวิตจากการทำงาน | 0 กรณี | 0 กรณี | 0 กรณี | |
จำนวนเหตุการณ์การบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน | 0 กรณี | 1 กรณี | 0 กรณี | |
จำนวนเหตุการณ์การบาดเจ็บ | 1 กรณี | 1 กรณี | 0 กรณี | |
อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน | 1.08 กรณี/1,000,000 ชั่วโมง | 1.03 กรณี/1,000,000 ชั่วโมง | 0 กรณี/1,000,000 ชั่วโมง |
ในปี 2565 พบสถิติอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานของทั้งพนักงานและผู้รับเหมา (A Lost-time injuries (LTI)) เกิดขึ้นกับผู้รับเหมา 1 กรณี ในเดือนมีนาคม ซึ่งการบาดเจ็บหลักจากการทำงานมาจากสารเคมีสัมผัสโดนตัวผู้รับเหมา อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการสืบสวน วิเคราะห์ถึงสาเหตุ รวมถึงจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางร่วมกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำและมีการสื่อสารขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยกำหนดให้ผู้ควบคุมงานทำการประเมินความเสี่ยงและวิเคราะห์ความเสี่ยงในการทำงาน และทำการเปิดใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะอนุญาตให้ผู้รับเหมาเริ่มเข้าทำงาน และตลอดระยะเวลาการทำงานเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยจะตรวจสอบการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่บริษัทกำหนดจนงานดังกล่าวเสร็จสิ้น ผลดังกล่าวทำให้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมา ไม่พบอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงาน และไม่มีอาการเจ็บป่วยหลักจากการทำงาน