การเคารพสิทธิมนุษยชน
ความท้าทาย
แนวทางการปฏิบัติงาน
บริษัทได้กำหนดนโยบายสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงว่าการดำเนินธุรกิจ เป็นไปด้วยการเคารพสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ครอบคลุมธุรกิจของบริษัทและบริษัทในเครือ คู่ค้า ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ กิจการร่วมค้า ผู้ทรงสิทธิ (Rights Holders) และกลุ่มเปราะบาง (Vulnerable group)

กรณีหากเกิดการละเมิดหรือผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนต่อผู้ทรงสิทธิและกลุ่มเปราะบาง บริษัทจัดให้มีช่องทางการสื่อสารและการรับข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มซีเค พาวเวอร์ รวมถึงมาตรการบรรเทา แก้ไข และเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
การตั้งเป้าหมาย
เป้าหมายในปี 2565

เป้าหมายระยะยาว

บริษัทได้จัดทำกลยุทธ์เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนขององค์กร ซึ่งประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งในประเด็นที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนขององค์กร ในการมุ่งสู่การเป็นองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งทางตรงจากการดำเนินงานในกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัท และทางอ้อมโดยการสนับสนุนและส่งเสริมคู่ธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจให้ตระหนัก คุ้มครอง และเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในการดำเนินธุรกิจ บริษัทมีการตั้งเป้าหมายเพื่อชี้วัดความสำเร็จทางด้านสิทธิมนุษยชน
การดำเนินงาน
การพัฒนาและดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Roadmap)
บริษัทได้พัฒนาแผนการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งมีกรอบระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2565 – 2569 เพื่อเป็นการกำหนดเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจนในการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน สามารถประเมินความเสี่ยงและลดโอกาสเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ในอนาคต
การดำเนินการงานปี 2565
- ดำเนินการเสริมสร้างความตระหนักด้านการเคารพสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างคุณค่า พัฒนา และต่อยอดโครงการต่าง ๆ โดยเพิ่มการมีส่วนร่วมที่ยึดหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน ให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตลอดห่วงโซ่คุณค่า
- การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียภายในองค์กร คือ กลุ่มพนักงาน โดยจัดการอบรมด้านสิทธิมนุษยชนให้กับพนักงานร้อยละ 100 โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายสิทธิมนุษยชน ให้ความรู้ที่มุ่งเน้นการเคารพสิทธิเป็นหลักพื้นฐาน และยอมรับความแตกต่างในองค์กรเพื่อการดำเนินงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืนภายใต้ความหลากหลาย
- การมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียภายนอกองค์กร
- กลุ่มคู่ค้า : ยกระดับกระบวนการจัดการความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนมุ่งเน้นการลดความเสี่ยงในการละเมิดสิทธิมนุษยชน และยกระดับคุณภาพชีวิตในสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านแรงงาน สุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดี โดยบริษัทมีการให้ความรู้เพื่อสร้างความเข้าและการตระหนักรู้ และมีการสุ่มตรวจสอบแบบลงพื้นที่จริง ซึ่งพบว่า คู่ค้าไม่มีกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ชุมชน : สร้างการมีส่วนร่วม และดำเนินโครงการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าและสังคมโดยรวม โดยยึดหลักการเคารพในสิทธิพื้นฐาน และความมั่นคงทางอาชีพ
- ลูกค้า : ส่งมอบไฟฟ้าให้กับลูกค้าทุกรายได้อย่างมีเสถียรภาพ โดยดำเนินงานภายใต้ความความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของบริษัทและบริษัทในเครือ
- เข้าร่วมการประเมินรายงานความคืบหน้าภายใต้ข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC)
- ตรวจสอบกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและปรับปรุงมาตรการลดผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ปรับปรุงกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและตอบสนองด้านสิทธิมนุษยชน
กระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence)
บริษัทได้ดำเนินกระบวนการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านของบริษัท (Human Rights Due Diligence) ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก

การตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านของบริษัทครอบคลุมพื้นที่การดำเนินธุรกิจในบริษัททั้งหมดตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อจัดทำแนวทางการจัดการในพื้นที่ปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบุมาตรการป้องกัน และลดผลกระทบจากความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในการดำเนินงานของบริษัท ตลอดห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงการระบุประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง การประเมินผลกระทบในกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ (Vulnerable Group) เช่น เด็ก กลุ่มชนพื้นเมือง แรงงานต่างชาติ และการประเมินโอกาสที่อาจเกิดผลกระทบ โดยเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนดำเนินการโดยพิจารณาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ โอกาสที่จะเกิดขึ้น และผลกระทบ ครอบคลุมสิทธิมนุษยชน ทั้ง 9 ประเด็น
ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน | ผู้ทรงสิทธิ (Rights holders) | |||
---|---|---|---|---|
พนักงาน | คู่ค้าและผู้รับเหมา | ลูกค้า | ชุมชน | |
1. สภาพการทำงานของพนักงานและคู่ค้าของ CKP (Working Conditions) | ||||
2. สุขภาพและความปลอดภัย (Health & safety) | ||||
3. การเลือกปฏิบัติและการละเมิดต่อพนักงาน และคู่ค้าของ CKP (Discrimination and Harassment) | ||||
4. สิทธิในเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม เพื่อปกป้องประโยชน์ของพนักงาน (Freedom of Association and Right to Collective Bargaining) | ||||
5. การใช้แรงงานผิดกฎหมาย (Illegal Forms of Labor (including Human Trafficking, Forced Labor, Child Labor)) | ||||
6. มาตรฐานการครองชีพในชุมชน (Standards of Living) | ||||
7. การได้มาซึ่งการเข้าถือสิทธิ์ในการถือครองที่ดินและการบังคับให้ตั้งถิ่นฐานใหม่ (Land Acquisition and Forced Re-settlement) | ||||
8. การข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า (Data Privacy) | ||||
9. การจัดการด้านความปลอดภัย (Security Management) |
บริษัทได้วางแผนดำเนินการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านทุก ๆ 3 ปี โดยครั้งล่าสุดคือ ในปี 2564 ผลการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน พบว่า ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเมินความเสี่ยงอยู่ในระดับสูง มี 1 ประเด็น คือ สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ซึ่งเป็นประเด็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชนในองค์กร โดยประเด็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ในห่วงโซ่คุณค่าอยู่ในระดับต่ำถึงปานกลาง และบริษัทสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้จากแนวทางการดำเนินงานในปัจจุบันของบริษัท
โดยผลการประเมินความเสี่ยงที่เหลืออยู่ (Residual Risks) หลังจากจัดทำแนวทางการป้องกันและแก้ไขด้านสิทธิมนุษยชนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทสำหรับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานที่อยู่ในระดับสูง บริษัทได้กำหนดมาตรการลดและควบคุมความเสี่ยง เพื่อบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งในด้านโอกาสและความรุนแรง เช่น การเพิ่มกระบวนการด้านอาชีวนามัยและความปลอดภัย และการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่พนักงาน เป็นต้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญในการติดตามประสิทธิผลของมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าการบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทมีประสิทธิภาพในการควบคุมผลกระทบตลอดห่วงโซ่คุณค่า
โดยฝ่ายบุคคลของบริษัทเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบงานทางด้านสิทธิมนุษยชนจะประสานกับหน่วยงานด้านความปลอดภัย และแจ้งประเด็นด้านสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานที่มีความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิในระดับสูง รวมถึงมาตรการที่ได้กำหนดขึ้นเพื่อบรรเทาความเสี่ยงดังกล่าว ซึ่งหน่วยงานด้านความปลอดภัยจะต้องมีการรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการต่อฝ่ายบุคคลของบริษัทอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการที่กำหนดขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชน
การประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชน
บริษัทกำหนดให้ฝ่ายบุคคลของบริษัทเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบงานทางด้านสิทธิมนุษยชน และจัดทำการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของสถานปฏิบัติงานที่สำคัญของบริษัท (Significant location of operation) หรือโรงงานไฟฟ้าของบริษัทและบริษัทในเครือที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน บริษัทเริ่มจากการระบุมาตรการควบคุมความเสี่ยงต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน กลุ่มเสี่ยงต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนทั้งภายในและภายนอกองค์กร และประเด็นความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้น ณ สถานปฏิบัติการ ก่อนการประเมินความเสี่ยงเพื่อค้นหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนดำเนินประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนเป็นประจำทุก 3 ปี โดยจะทบทวนประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับดำเนินธุรกิจตลอดห่วงคุณค่าเป็นประจำทุกปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแผนงานและมาตรการบรรเทา แก้ไข และเยียวยามีประสิทธิภาพและมีความเป็นปัจจุบัน
ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงาน ปี 2565

โครงการหรือกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชน
การปฐมนิเทศพนักงานใหม่
ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา บริษัทได้เพิ่มเนื้อหาด้านสิทธิมนุษยชนและนโยบายสิทธิมนุษยชนในการปฐมนิเทศ พนักงานใหม่ เพื่อให้พนักงานเกิดความตระหนักรู้ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานที่บริษัทในวันแรก ว่า CKPower ให้ความสำคัญเรื่องการเคารพ สิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลเป็นอย่างมาก การปฐมนิเทศเรื่องสิทธิมนุษยชนจัดทำผ่านระบบ VDO Conference และดำเนินโครงการเพื่อให้พนักงานในทุกพื้นที่การทำงานสามารถเข้ารับการปฐมนิเทศผ่าน Mobile Application
การปฏิบัติด้านแรงงาน
บุคลากรเป็นแรงขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่สำคัญ ส่งผลให้องค์กรสามารถดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด บริษัทจึงมุ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ผ่านแนวทางการบริหารงานด้านทรัพยากรบุคคลขององค์กร ที่มีความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติในการจ้างงาน เชื้อชาติ ถิ่นกำเนิด ศาสนา ความเชื่อ เพศ สีผิว ภาษา เผ่าพันธุ์ สถานะทางสังคม หรือสถานะอื่นใดต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ตลอดจนการไม่ใช้แรงงานบังคับและแรงงานเด็กทั้งการจ้างงานโดยตรงหรือภายในห่วงโซ่อุปทานของบริษัท พร้อมกันนี้ บริษัทกำหนดให้มีนโยบายการพิจารณาค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและเหมาะสม โดยพิจารณาจากความสามารถและผลการปฏิบัติงานของพนักงาน รวมถึง มีการจัดสรรสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่พนักงานที่เท่าเทียมและมีศักยภาพเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน
การอบรมสื่อสารหลักการสำคัญของสิทธิมนุษยชน
เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชน บริษัทจึงจัดให้มีการสื่อสารผ่านหลากหลายช่องทาง ได้แก่ การประชุมทางไกลผ่านระบบ Microsoft Team และ Mobile Application และจัดอบรม ที่ครอบคลุมพนักงานทั้งหมดในทุกระดับชั้น
การดำเนินการตรวจประเมิน สร้างความเข้าใจ และการตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชนแก่คู่ค้า
บริษัทได้ดำเนินการสร้างความเข้าใจและการตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชนแก่คู่ค้า เพื่อเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะป้องกันไม่ให้มีกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยบริษัทได้ดำเนินการผนวกประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนไว้ในการตรวจประเมินความเสี่ยงคู่ค้า และมีการสุ่มตรวจสอบคู่ค้า Onsite Audit เป็นประจำทุกปี
การสร้างความเข้าใจและการตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชนแก่ชุมชน
บริษัทได้ดำเนินการสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชนแก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า และเปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถแสดงคิดเห็นอย่างเท่าเทียมในการสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนร่วมกับบริษัท ตลอดจนความเสี่ยงและผลกระทบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในชุมชนเป็นประจำทุกปี
โครงการเพื่อยกระดับคุณภาพทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนอย่างเท่าเทียม


บริษัทดำเนินการออกแบบและจัดสร้างอาคารเรียน โรงเรียนอนุบาลหินหัวเสือ แขวงไซสมบูน สปป.ลาว จากหลักการออกแบบอย่างเท่าเทียม (Universal Design) เพื่อเพิ่มโอกาสการเรียน การศึกษา เพิ่มพื้นที่ทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัย รองรับทั้งเด็กนักเรียนชายและหญิง รวมถึงผู้พิการ เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการและกีฬาของ สปป.ลาว นอกจากนี้ยังจัดทำระบบน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค ด้วยการติดตั้งระบบปั๊มน้ำบาดาลจากพลังงานแสงอาทิตย์ และติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่ม ทำให้คุณภาพน้ำสำหรับบริโภคเป็นไปตามมาตรฐานน้ำดื่ม สปป.ลาว และองค์การอนามัยโลก