ความท้าทาย

การดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และวิกฤติต่าง ๆ ของโลกในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง โดยบริษัทจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างรอบด้านตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากที่บริษัทจะต้องมีการจัดการและใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยไม่กระทบมูลค่าผลตอบแทนที่พึงได้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีความพร้อมของการดำเนินการผลิตเพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจให้น้อยที่สุด อีกทั้งยังต้องพัฒนาความเป็นเลิศด้านพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความยืดหยุ่นเพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อขยายตลาดและความร่วมมือในธุรกิจการผลิตไฟฟ้า และการให้บริการด้านพลังงานหมุนเวียน และสนองตอบต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
แนวทางการปฎิบัติงาน

ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่มีการดำเนินงานอันมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายของภาครัฐ เทคโนโลยี และการองค์ประกอบสำคัญสามประการ ได้แก่ ความเป็นเลิศด้านการผลิตไฟฟ้า ความน่าเชื่อถือของกระบวนการ และศักยภาพของบุคลากร บริษัทได้กำหนดแนวทางในการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งองค์กร โดยมีแนวคิดหลัก คือ การส่งเสริมศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนผ่านการลงทุนในโอกาสทางธุรกิจใหม่ในและภูมิภาคอาเซียน และการประยุกต์นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาผนวกกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ภูมิภาค และสร้างตอบแทนที่ดีและเป็นธรรมแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้น ตามกลยุทธ์หลัก “P – Partnership for Life หรือ พันธมิตรที่ยั่งยืน”

แผนธุรกิจเพื่อสร้างความยืดหยุ่นของบริษัท

ในปี 2565 บริษัทได้พัฒนาแผนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยผนวกเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนขององค์กร และวางแผนการดำเนินงานภายใต้กรอบระยะเวลา 5 ปี (ปี 2565-2569) เพื่อผลักดันให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความมุ่งมั่นของบริษัททั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ

  • การขยายกลุ่มลูกค้าใหม่คิดเป็นร้อยละ 3 ของลูกค้าทั้งหมด ในปี 2565
  • จัดทำแผนการดำเนินงานประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเสร็จสมบูรณ์ ภายในปี 2566
  • ดำเนินธุรกิจในประเทศใหม่ภายในภูมิภาคอาเซียน อย่างน้อย 1 แห่ง ภายในปี 2567
  • มีกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างน้อย 3 ราย และดำเนินงานตามแผนงานเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจเสร็จสมบูรณ์ ภายในปี 2570
การพัฒนาบุคลากร - จัดตั้งหน่วยงาน CKP Exploration

บริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานสะอาดที่สร้างมลภาวะน้อยที่สุดสู่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมีมาตรฐานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพให้กับบุคลากรทุกระดับให้เกิดการเรียนรู้พัฒนา ส่งเสริมให้นำนวัตกรรมมาใช้ในระบบปฏิบัติงานและต่อยอดระบบงานให้มีประสิทธิภาพ จัดตั้งหน่วยงาน CKP Exploration ซึ่งประกอบด้วยทีมงานที่มีวิศวกรรุ่นใหม่และผู้บริหาร ที่มาจากหน่วยงานต่าง ๆ ของบริษัท เพื่อริเริ่มแนวทางการดำเนินธุรกิจ วิจัยและพัฒนา ค้นหาแนวทางการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าในรูปแบบใหม่ กำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของบริษัทให้ทันกับทุกความท้าทายและโอกาสกระแสของโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทแล้ว ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงโดยเฉพาะความเสี่ยงใหม่ (Emerging Risks) ในอนาคต

การดำเนินงาน

การดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และกระจายโอกาส โมเดลธุรกิจของบริษัทมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนและสัดส่วนการลงทุน สร้างสมดุลและความยืดหยุ่นของการผลิตไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ รวมทั้งการวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับแนวโน้มของตลาดพลังงานหมุนเวียน การขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิตและใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC: Renewable Energy Certificate) และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นล้วนเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทได้ขยายตลาดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยผสานความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ

การพัฒนาแผนการดำเนินงาน
บริษัทได้พัฒนาแผนการดำเนินงานที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
ผนึกกำลังกับพันธมิตร
ผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ ขยายตลาดการลงทุน และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ผ่านการดำเนินธุรกิจร่วมกับ INNOPOWER เป็นบริษัทพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ในตลาด REC ซึ่ง INNOPOWER ถือเป็นพันธมิตรที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนของบริษัทที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาการผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ช่วยสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจผลิตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และธุรกิจที่ใช้พลังงานใช้แล้วหมดไป (Non-renewable Energy) ในการลดก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งบริษัทได้สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อสำรวจโอกาสในการพัฒนาโครงการผลิตไฮโดรเจนที่มีการปลดปล่อยคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Hydrogen Production Facilities) โดยมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ จำกัด และบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด
สร้างความเข้มแข็งให้ตลาดเดิม
สร้างความเข้มแข็งในตลาดเดิม และมุ่งแสวงหาตลาดการลงทุนในพื้นที่ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในกรอบการดำเนินงาน 5 ปี บริษัทมุ่งเน้นขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ภายในภูมิภาคอาเซียน
  • บริษัทได้ลงนามสัญญาว่าด้วยการพัฒนาโครงการ (Project Development Agreement: PDA) เพิ่มเติมในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำขนาดเล็กใน สปป. ลาว
  • เจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กับบริษัทเอกชนในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลการเจรจาได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566
  • ขยายสัดส่วนการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน โดยในปี 2565 บริษัทได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 100 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนาม
นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุง

ในปี 2565 บริษัทได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุงการพยากรณ์ปริมาณน้ำท่า (Hydrology Forecast) ที่จะไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยความร่วมมือระหว่างที่ปรึกษา Compagnie Nationale du Rhône จากประเทศฝรั่งเศสและทีมงานวิศวกรของบริษัท ใดยใช้แบบจำลองคณิตศาสตร์ในการประยุกต์หลักการทางชลศาสตร์และอุทกวิทยาในการประเมินปริมาณน้ำท่า โดยในระยะสั้นทีมงานวิศวกรรมอุทกวิทยามีแผนงานที่จะปรับปรุงและเพิ่มความแม่นยำของระบบติดตามและพยากรณ์น้ำท่า รวมทั้งรักษาความมั่นคงของระบบฐานข้อมูล เช่น การก่อสร้างสถานีวัดน้ำเพิ่มเติม การจัดการเรื่องเข้าถึงข้อมูล การปรับเปลี่ยนระบบ Physical Server เป็นระบบ Cloud ซึ่งการใช้งานแบบจำลองคณิตศาสตร์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อก้าวสู่องค์กรที่มุ่งเน้นการประยุกต์นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม (Digital Transformation & Innovations) เข้าไปเสริมให้กับธุรกิจของบริษัทได้อย่างเหมาะสมในลำดับต่อไป ด้วยความสามารถของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทั้งระบบสื่อสาร ระบบโครงข่ายดาวเทียม คอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง

สำหรับในระยะยาวบริษัทมีแผนการปรับปรุงขยายแบบจำลองเพื่อการพยากรณ์สำหรับโครงการอื่น ๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้ในการติดตาม ศึกษา และประมวลผลข้อมูลที่เป็นประโยชนืในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) เป็นต้น เนื่องจากปริมาณน้ำท่าเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตและส่งมอบพลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้า เพื่อการปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง สร้างสรรค์กระบวนการรูปแบบใหม่ พร้อมทั้งส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นหรือประสบการณ์รูปแบบใหม่แก่ลูกค้าหรือพนักงาน

กำหนดราคาคาร์บอนภายในองค์กร
เตรียมความพร้อมนำกลไกการกำหนดราคาคาร์บอนภายในองค์กร (Internal Carbon Pricing: ICP) สร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก (Green Finance) ให้กับองค์กร
ผลการดำเนินการปี 2565