การประเมินประเด็นสำคัญ
ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัท ประจำปี 2565
การวิเคราะห์ประเด็นสำคัญ
ในปี 2565 บริษัทได้พิจารณาการระบุประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัท (Materiality Topic) โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ บริษัทได้คำนึงถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในการวิเคราะห์ผลกระทบร่วมด้วย ตามแนวทางที่ระบุในมาตรฐาน Global Reporting Initiative (GRI) 2021 โดยกระบวนการระบุประเด็นสำคัญนั้นมีดังต่อไปนี้
ผลการวิเคราะห์ประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญของบริษัท
จากการวิเคราะห์ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย และการจัดลำดับประเด็นสำคัญ ทำให้บริษัทสามารถจำแนกประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทออกเป็น ประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญของบริษัท (Materiality Topics) 8 ประเด็น และประเด็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของบริษัท (Business Fundamental Topics) 5 ประเด็น
ประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญของบริษัท
ในกระบวนการพิจารณาผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่ม ในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ บริษัทเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนของผลกระทบแต่ละด้าน โดยอ้างอิงตามข้อกำหนดและมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนสากลอันเป็นที่ยอมรับ จำนวน 24 ประเด็น ดังนั้น การวางแผนและกำหนดแนวทางการดำเนินงานใน 13 ประเด็นข้างต้น จะสามารถลดผลกระทบเชิงลบ ส่งเสริมผลกระทบเชิงบวกต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย และลดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทได้อีกด้วย
ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนของผลกระทบที่อาจเกิดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท
- สิทธิในการมีชีวิต
- สิทธิในเสรีภาพและความปลอดภัยของร่างกาย จะถูกจับกุมหรือควบคุมโดยอำเภอใจมิได้ จะถูกลิดรอนเสรีภาพของตนมิได้ ยกเว้นโดยเหตุและโดยเป็นไปตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย
- สิทธิที่จะไม่ตกเป็นทาสและแรงงานบังคับ / สิทธิที่บุคคลไม่ควรถูกปฏิบัติเยี่ยงทาส รวมทั้งการบังคับใช้แรงงาน
- สิทธิที่จะไม่ถูกกระทำการทรมาน การลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือ ย่ำยีศักดิ์ศรี
- สิทธิการระลึกถึงตัวตนของบุคคลก่อนการมีกฎหมาย / สิทธิในการได้รับความเท่าเทียมกับบุคคลอื่น และการเคารพความเป็นบุคคลของกันและกัน แม้ปราศจากซึ่งกฎหมายรองรับ
- สิทธิเท่าเทียมของบุคคลตามกฎหมาย ทั้งด้านการได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
- สิทธิในการเข้าถึงการเยียวยาที่มีประสิทธิผล
- สิทธิการได้รับกระบวนการทางศาลที่เป็นธรรม
- สิทธิในการแต่งงานและสร้างครอบครัว
- สิทธิในการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน / สิทธิที่จะเป็นเจ้าของสิ่งของและทรัพย์สินของตนเอง และไม่มีใครมีสิทธิที่จะเอาทรัพย์สินของเราไปโดยที่เราไม่อนุญาต
- สิทธิในการมีอิสระทางความคิด และนับถือศาสนา
- สิทธิในการแสดงความคิดเห็น เข้าถึงข้อมูล และแสดงออก / สิทธิในการมีอิสรภาพที่จะพูดหรือแสดงออก ในสิ่งที่คิด และแบ่งปันความเห็นให้คนอื่นได้ทราบ รวมถึงได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
- สิทธิในการชุมนุม / สิทธิในการมีเสรีภาพที่จะชุมนุมเพื่อร่วมกันทำงานที่สร้างสรรค์
- สิทธิในเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม เพื่อปกป้องประโยชน์ของตน
- สิทธิในการมีส่วนร่วมในชีวิตสาธารณะ / กิจกรรมสาธารณะ
- สิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการสังคม เช่น ประกันสังคม
- สิทธิในการทำงาน
- สิทธิในการได้รับสภาพเงื่อนไขการทำงานที่เป็นธรรมและน่าพอใจ
- สิทธิในการก่อตั้ง เข้าร่วมสหภาพแรงงาน และการผนึกกำลังเพื่อปกป้องผลประโยชน์ในการทำงาน
- สิทธิที่จะได้รับการดำรงชีวิตที่ดี เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และการบริการสาธารณะ ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตที่ดี
- สิทธิด้านสุขภาพ
- สิทธิด้านการศึกษา
- สิทธิในการเข้าร่วมวิถีชีวิตทางวัฒนธรรม ได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาทางวัตถุ และการรักษาสิทธิของผู้ประพันธ์
- สิทธิเสรีภาพในการกำหนดวิถีชีวิตตนเองและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
ประเด็นความยั่งยืนของบริษัท ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย และแนวทางการจัดการ
บรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ
ผลกระทบเชิงบวก ผลกระทบเชิงลบ
ความสอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) | กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง | ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย | แนวทางการจัดการ |
---|---|---|---|
1. การกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง การปฏิบัติตามข้อกำหนด | |||
|
|
กรณีร้องเรียนจากการละเมิดข้อกำหนดและกฏหมาย หรือการขาดการบริหารความเสี่ยงที่ดีอาจส่งผลให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงักจนส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในการดำเนินงานและส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียได้ในภาพรวม การกำกับดูแลกิจการที่ดี การบริหารความเสี่ยง การปฏิบัติตามข้อกำหนด เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ส่งผลต่อความไว้วางใจของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม หากบริษัทแสดงผลการดำเนินงานอย่างถูกต้อง โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ และเป็นไปตามความคาดหวังก็จะทำให้เกิดความไว้วางใจต่อบริษัทเพิ่มขึ้น |
|
2. การจัดการนวัตกรรม | |||
|
|
การพัฒนานวัตกรรมช่วยเพิ่มทักษะและแลกเปลี่ยนความรู้ การลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน หรือกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่ม |
|
|
นวัตกรรมช่วยให้กระบวนการผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและเสถียรภาพมากขึ้น และส่งผลต่อความมั่นคงในการลงทุน |
||
|
นวัตกรรมที่นำไปประยุกต์ใช้กับชุมชนจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน |
||
3. ความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ | |||
|
|
เพิ่มความสามารถในการตอบสนอง ความคล่องตัว และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย |
|
|
เปิดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน และเป็นการดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถซึ่งส่งเสริมประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ |
||
|
อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงคู่ค้าในกรณีที่มีการเพิ่มหรือลดแนวทางการดำเนินธุรกิจ |
||
|
มีการขยายโครงการไปยังพื้นที่ใหม่ ซึ่งอาจเป็นการรบกวนคนในพื้นที่ หรืออาจต้องทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐาน ในทางกลับกันกรณีที่บริษัทมีการสนับสนุนชุมชนและสังคม ก็เป็นการขยายพื้นที่ในการทำโครงการ CSR ต่าง ๆ |
||
4. ความมั่นคงด้านเสถียรภาพและความพร้อมของการดำเนินการผลิต | |||
|
|
ความพึงพอใจ และความมั่นใจในการทำงาน เนื่องจากพนักงานจะได้รับการสนับสนุนในการทำงานและมีโอกาสในการพัฒนาตนเอง ซึ่งรวมไปถึงการดูและสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน โอกาสเรียนรู้และพัฒนาความเชี่ยวชาญในการดำเนินการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากจะต้องใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยและทันกาลเพื่อรองรับการดำเนินการผลิตที่มีความซับซ้อน |
|
|
ความสามารถในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคและประเทศ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานในประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ การดำเนินการผลิตไฟฟ้าที่ไม่มีความมั่นคงอาจส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนในภูมิภาคและประเทศ การมีปัญหาในการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงพอในกรณีที่มีการลดอัตราการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอาจส่งผลต่อการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐที่มีความสำคัญต่อประชาชน |
||
|
การหยุดการผลิตจะส่งผลให้ระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าเกิดการขัดข้องได้ ส่งผลเสียต่อชื่อเสียง และเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงานเพื่อลดความเสี่ยง เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการดำเนินงาน การขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการล่าช้าในการให้บริการหรือการตัดสินใจแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า และอาจส่งผลต่อความไว้วางใจของลูกค้าในการใช้บริการของโรงไฟฟ้าในอนาคต เสถียรภาพของการส่งไฟฟ้าส่งผลต่อการดำเนินงานของลูกค้าโดยตรง ซึ่งมีผลต่อเนื่องไปถึงประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์การรับและผลิตไฟฟ้าของลูกค้า |
||
|
ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เป็นวงกว้าง เกิดความเสียหาย การดำเนินการผลิตไฟฟ้าในสภาวะที่ไม่เสถียรอาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และมีผลกระทบต่อความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ |
||
|
การเพิ่มนวัตกรรมหรือองค์ความรู้ในการผลิตไฟฟ้าของบริษัท อาจส่งผลกระทบต่อคู่ค้าในการจัดหาเครื่องมือ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มเสริมเสถียรภาพการผลิต ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มต้นทุนในการดำเนินงานของคู่ค้า แต่ก็ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คู่ค้าได้เกิดการพัฒนานวัตกรรมร่วมไปกับบริษัท ความเสียหายของอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า อาจทำให้โรงไฟฟ้าต้องหยุดการผลิตไฟฟ้าชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลให้คู่ค้าต้องหยุดการผลิตหรือดำเนิน |
||
|
ผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทผู้ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้า และผลตอบแทนของการลงทุนในระยะยาว |
||
5. การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า | |||
|
|
ได้รับฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า และพัฒนาทักษะการสื่อสารและการจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้า มีความมั่นคงทางอาชีพ และผลตอบแทนที่ดีที่ได้รับจากบริษัท สมรรถนะการทำงานของพนักงานที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องจากการได้รับทราบความพึงพอใจของลูกค้า |
|
|
ความพึงพอใจของลูกค้า และความไว้วางใจในการตอบสนองความต้องการทางพลังงานโดยการส่งไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพและการเพิ่มกำลังการผลิต การขาดความสะดวกสบายในการใช้บริการของลูกค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดความผิดพลาดและความล่าช้าในการดำเนินงาน |
||
|
ความพึงพอใจในวงกว้างให้กับสังคมจากการตอบสนองความต้องการทางพลังงานในวงกว้างโดยการส่งไฟฟ้าอย่างมีเสถียรภาพและการเพิ่มกำลังการผลิต |
||
|
ผลกระทบทางอ้อมทางด้านความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ |
||
|
ผลกระทบทางอ้อมทางด้านการเติบโตทางการเงิน และความมั่นใจของนักลงทุน |
||
สังคม
ผลกระทบเชิงบวก ผลกระทบเชิงลบ
ความสอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) | กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง | ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย | แนวทางการจัดการ |
---|---|---|---|
6. การเคารพสิทธิมนุษยชน | |||
|
|
กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนสามารถส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องค่าเสียหาย การหยุดชะงัดของการดำเนินธุรกิจ และการสูญเสียความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย การดูแลและปฏิบัติอย่างเท่าเทียมตลอดห่วงโซ่อุปทาน เป็นการส่งเสริมสิทธิมนุษชนของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร |
|
|
แนวทางการบริหารองค์กรของบริษัท มีส่วนในการกำหนดสวัสดิการ แนวทางการดำเนินงาน การให้อิสระในการแสดงความคิดเห็น การพัฒนาพนักงานซึ่งส่งผลกระทบถึงสวัสดิการครอบครัวของพนักงาน และความมั่นคงด้านอาชีพ |
||
|
การควบคุมการดำเนินงานที่มีธรรมาภิบาล และมีระบบการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดี ส่งผลต่อสิทธิพื้นฐานในการดำรงชีวิตของชุมชนและสังคม โดยเฉพาะชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งส่งผลถึงคุณภาพชีวิตและสุขภาพ |
||
7. การดูแลสังคมและชุมชน | |||
|
|
การสร้างหรือลดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทและชุมชนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสีย |
|
|
การปฏิบัติงานของโรงไฟฟ้าอาจส่งผลต่อสภาพแวดล้อม สุขภาพ และวิถีในการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนรอบพื้นที่โรงไฟฟ้า |
||
|
เพิ่มความสามารถของพนักงาน ผ่านการเข้าร่วมโครงการ CSR ทำให้พนักงานได้เข้าใจชุมชนและมีแรงจูงใจในการทำโครงการเพื่อชุมชน และเป็นการช่วยเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กรกับพนักงาน |
||
8. การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน | |||
|
|
ความมั่นใจในการให้บริการและการส่งมอบกระแสไฟฟ้าของบริษัทจะไม่สร้างผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ความตรงตามเวลาในการส่งมอบกระแสไฟฟ้าที่กำหนด มีผลต่อการวางแผนการใช้งานของลูกค้า และอาจส่งผลต่อกำลังการผลิตของลูกค้า |
|
|
เกิดความมั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทนั้นไม่มีความเสี่ยงต่อชุมชน หรือจะมีการเยียวยาหากมีผลกระทบที่เกิดขึ้น |
||
|
การกำหนดมาตรฐฐานที่เข้มงวดในการรับซื้อวัตถุดิบ อาจทำให้คู่ค้าต้องนำวัตถุดิบเหล่านั้นไปทำการตรวจสอบและปรับปรุงให้เหมาะสมก่อนนำไปใช้งานหรือส่งมอบ รวมถึงการปรับปรุงระบบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่กำหนดขึ้น อาจเป็นภาระกิจและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคู่ค้า ได้รับการประเมินความเสี่ยง และติดตามตรวจสอบระบบการทำงานทั้งทางด้านบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นการส่งเสริมมาตรการฐานด้าน ESG ของคู่ค้าให้สูงขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้คู่ค้าสามารถปรับการดำเนินงานเพื่อลดความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น |
||
|
เกิดความมั่นใจว่าคู่ค้าของบริษัทจะไม่มีความเสี่ยงด้านความยั่งยืน และไม่เกิดความขัดข้องในการดำเนินธุรกิจ สร้างความมั่นในให้กับนักลงทุน |
||
9. สุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย | |||
|
|
การจัดการทางด้านสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัยมีผลทั้งต่อพนักงานและคู่ค้า (ผู้รับเหมา) อันเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับสภาวะการทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ/หรือเอื้อต่อการทำงานที่ปลอดภัย การดูแลสุขภาพอาชีวอนามัยของพนักงานและการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน จะช่วยลดการลาออกของพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายในการจัดการโรคและอุบัติเหตุในที่ทำงาน การให้การดูแลสุขภาพอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน จะช่วยสร้างความเข้าใจและความสนใจในการทำงานของพนักงาน และคู่ค้า ที่เป็นการช่วยเพิ่มความผูกพันกับองค์กร |
|
|
การปฏิบัติตามกฎหมาย มาตรการและข้อกำหนดด้านสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ภาครัฐต้องเข้ามาควบคุมกำกับดูแล ในกรณีที่องค์กรไม่ปฏิบัติตามหลักสุขภาวะอาชีวอนามัยและความปลอดภัย |
||
|
ทำให้เกิดความมั่นคงและความเชื่อมั่นให้กับชุมชนรอบโรงไฟฟ้าได้ โดยผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถรับรู้ได้ถึงความมั่นคงขององค์กรและมีความเชื่อมั่นในการใช้บริการจากบริษัท ลดอันตรายและความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุหรือการป่วยของพนักงานในองค์กร ซึ่งจะช่วยลดภาระการรักษาพยาบาลในชุมชนรอบโรงไฟฟ้า การควบคุมการรั่วไหลของสารเคมี หรือการดำเนินงานต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยภายในโรงไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบโรงไฟฟ้าได้ ทั้งนี้ รวมถึงสภาวะที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต เช่น เสียงรบกวน คุณภาพอากาศในบรรยากาศ และคุณภาพน้ำ เป็นต้น |
||
|
อุบัติเหตุ/การสูญเสียซึ่งเกิดจากกิจกรรมภายในองค์กร อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของบริษัท ชื่อเสียง และมูลค่าหุ้นได้ |
||
10. การพัฒนาศักยภาพและการดูแลพนักงาน | |||
|
|
การพัฒนาศักยภาพและการดูแลพนักงานจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานของพนักงาน ทำให้พนักงานมีความมั่นใจในความสามารถของตนเอง และเป็นกำลังใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาศักยภาพและการฝึกอบรมช่วยเพิ่มทักษะและความสามารถใหม่ ๆ ของพนักงาน ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรได้ดียิ่งขึ้น การดูแลพนักงานด้วยการให้เกียรติและสนับสนุนทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงาน ช่วยเสริมสร้างความผูกพันของพนักงานและองค์กร และส่งผลให้พนักงานพึงพอใจในการทำงานและอยู่ในองค์กรในระยะยาว การพัฒนาศักยภาพและการดูแลพนักงานที่ดีช่วยลดการสูญเสียพนักงานขององค์กร และลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมสำหรับพนักงานใหม่ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง |
|
|
ลูกค้าได้รับการบริการที่ดีจากพนักงานที่มีความสามารถ และมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ |
สิ่งแวดล้อม
ผลกระทบเชิงบวก ผลกระทบเชิงลบ
ความสอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) | กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง | ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย | แนวทางการจัดการ |
---|---|---|---|
11. การจัดการสิ่งแวดล้อม | |||
|
|
การดำเนินการที่ขัดต่อข้อกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมอาจส่งผลต่อชุมชนและเกิดการร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐจนอาจเกิดการหยุดชะงักของการดำเนินธุรกิจ จะส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน ลดความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อองค์กร อันมีผลเกี่ยวเนื่องต่อการลงทุนในภาพรวม |
|
|
การใช้นวัตกรรมเพื่อบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จะเป็นการสนับสนุนองค์ความรู้ของพนักงานเพื่อเป็นฟันเฟืองที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย |
||
|
การจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนของการใช้ทรัพยากร และการควบคุมการระบายของเสียจากกิจกรรมการทำธุรกิจของบริษัทส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชุมชน |
||
|
การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ ซึ่งอยู่ภายใต้การคัดเลือกคู่ค้าอย่างยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน |
||
12. การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | |||
|
|
การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของบริษัทมีผลต่อเป้าหมาย ความคาดหวัง ข้อกำหนด และนโยบายที่บริษัทลูกค้า หรือภาครัฐได้กำหนดขึ้น ส่งเสริมประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินและตลาดการลงทุนธุรกิจ การขาย REC และ Green Bond เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้แก่นักลงทุน ขยายตลาดของลูกค้า และสนองนโยบายของภาครัฐ |
|
|
การใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะเป็นการสนับสนุนองค์ความรู้ของพนักงานเพื่อเป็นฟันเฟืองที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย |
||
|
การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีส่วนทั้งในการเป็นตัวเร่งผลกระทบ และบรรเทาผลกระทบในด้านการใช้พลังงาน และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม |
||
|
การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมถึงผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ ซึ่งอยู่ภายใต้การคัดเลือกคู่ค้าอย่างยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน |
||
|
บริษัทเป็นผู้มีส่วนได้เสียของภาครัฐที่จะเป็นเสียงสะท้อนให้ภาครัฐได้รับทราบถึงแนวทางการดำเนินงานของภาคเอกชน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งวิกฤตและโอกาสต่าง ๆ ในโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ที่ภาครัฐได้จัดขึ้น |
||
13. ความหลากหลายทางชีวภาพ | |||
|
|
การส่งเสริม หรือทำให้ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพเสื่อมโทรม สามารถส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต และการประกอบอาชีพของชุมชน และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในองค์กร |
|
|
การใช้นวัตกรรมเพื่อบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ จะเป็นการสนับสนุนองค์ความรู้ของพนักงานและคู่ค้าเพื่อเป็นฟันเฟืองที่ช่วยในการขับเคลื่อนให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย |
||
|
การดำเนินงานเพื่อส่งเสริมด้านความหลากหลายทางชีวภาพของบริษัท เป็นการสนับสนุนนโยบายและเป้าหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพของลูกค้าและหน่วยงานภาครัฐ ทำให้ลูกค้าและหน่วยงานภาครัฐสามารถจัดการความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างครบห่วงโซ่อุปทาน และนโยบายของรัฐ |
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDGs) และการเข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ UN Global Compact
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)
บริษัทขับเคลื่อนการดำเนินงานความยั่งยืน โดยสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ในประเด็นที่สอดคล้องกับขีดความสามารถและศักยภาพทางธุรกิจของบริษัท ภายใต้การดำเนินการความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic) โดยสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 13 เป้าหมายจากทั้งหมด 17 เป้าหมายผ่านประเด็นความยั่งยืนที่สำคัญของบริษัท 8 ข้อ และประเด็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของบริษัท 5 ข้อ
มิติ | เป้าหมายความยั่งยืน |
---|---|
มิติสิ่งแวดล้อม |
|
มิติสังคม |
|
มิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ |
|
การเข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ UNITED NATIONS GLOBAL COMPACTบริษัทเล็งเห็นความสำคัญของการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก ในฐานะของบรรษัทพลเมืองที่ดี และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในแรงผลักดัน ส่งเสริม และสรรสร้างสังคมที่มีความเป็นอยู่ที่ดี บริษัทจึงได้เข้าร่วมข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UN Global Compact) ในฐานะสมาชิก เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของบริษัทและตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมตามหลักสากล 10 ประการ ภายใต้ความรับผิดชอบพื้นฐานในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน มาตรฐานแรงงาน การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนภาคธุรกิจของประเทศไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจตามหลักการดังกล่าว |
การเข้าร่วมข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ UNITED NATIONS GLOBAL COMPACT หรือ คลิก |
บริษัทได้คำนึงถึงการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) และหลักสากล 10 ประการตามข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ UNITED NATIONS GLOBAL COMPACT ในการพัฒนากรอบการดำเนินด้านความยั่งยืน “C-K-P” ของบริษัท เพื่อส่งเสริมให้บริษัทมีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายและข้อกำหนดที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล